ข่าว

"วิษณุ" แย้มให้ "อสส." เรียกเงินเยียวยาจากผู้ผลิต จีที 200

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิษณุ" แย้มให้ อสส. เรียกเงินเยียวยาจากผู้ผลิต จีที 200 ยกกฎหมายความร่วมมือด้านต่างประเทศตั้งเป็นคดีฉ้อโกง ปัดตอบเรียกค่าโง่ แต่เป็นค่าซื้อความรู้ที่แพงไปหน่อย

 

          ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มอบหมายให้รับผิดชอบการเรียกเงินเยียวยาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม จีที 200 หลังจากศาลอังกฤษมีคำพิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์ ประมาณ 400 ล้านบาท โดยให้นำเงินจำนวนนี้ไปชดเชยแก่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อเครื่องมือที่ไม่สามารถใช้งานได้ว่า ในการประชุมครม.วานนี้ (21 มิ.ย.) นายกฯ มอบหมายให้ตนไปพิจารณาเรื่องดังกล่าวใน 2 ประเด็น 1.การเรียกร้องค่าเสียหายตามที่ศาลอังกฤษได้ยึดทรัพย์ไว้ เรื่องนี้ถือว่าใหม่สำหรับตน จึงสอบถามข้อมูลไปยังหน่วยงานจัดซื้อ 7-8 หน่วยงาน รวมถึงจะหารือว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นตัวแทนรัฐในการเรียกเงินเยียวยา โดยคาดว่าจะเป็นสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพราะมีกฎหมายด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอยู่

          ส่วนประเด็นที่ 2. คือ ดูการรับผิดในส่วนของเรา เมื่อมีการซื้อเครื่องดังกล่าวมาแล้ว แต่ประสิทธิภาพไม่ตรงกับที่คิด เราจึงเป็นผู้เสียหายที่สามารถเรียกเงินเยียวยาอย่างที่หลายประเทศได้ทำ ส่วนคำถามที่ว่าการจัดซื้อเป็นความผิดหรือไม่ เพราะมีสื่อมวลชนบางแห่งนำเสนอว่าผู้จัดซื้อมีความผิดด้วย ข้อเท็จจริง คนซื้อจะมีความผิดด้วยต่อเมื่อมีการทุจริต แต่จะมีจริงหรือไม่ขณะนี้การตรวจสอบอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งความรับผิดในส่วนของเรายังไม่มีอะไรต้องดูในตอนนี้ เพราะเป็นหน้าที่ป.ป.ช. รัฐจะเข้าไปดูซ้อนไม่ได้ 
  
          นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนที่เรื่องดังกล่าวเกิดความล่าช้านั้น ทางป.ป.ช.ชี้แจงว่าเรื่องอยู่ในกระบวนการ ส่วนรายละเอียดตนไม่ควรพูดตรงนี้ แม้ว่าคดีความที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จก็ไม่เป็นปัญหากับการดำเนินการเรียกเงินเยียวยาที่สามารถดำเนินการคู่ขนานกันได้ เพราะป.ป.ช.ดูเฉพาะคดีอาญา แต่การขอเงินเยียวยาเราจะตั้งรูปคดีเป็นการฉ้อโกง หลอกลวง ผิดสัญญา ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่ง เมื่อสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา และศาลอังกฤษมีคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐาน เราก็จะยึดแนวทางนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ความเสียหายของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยที่ซื้อเครื่องดังกล่าวทั้งหมด รวมกันมีมูลค่าประมาณ 600-800 ล้านบาท มากกว่าทรัพย์สินของบริษัทผู้ผลิตที่ถูกศาลมีคำสั่งยึดราว 400 ล้านบาทเสียอีก นอกจากนั้น ยังต้องมีการเฉลี่ยเงินก้อนดังกล่าวให้ประเทศที่ได้รับความเสียหายด้วย
  
          เมื่อถามว่า จำนวนเงินที่ศาลอังกฤษมีคำสั่งยึดนั้น มูลค่าน้อยกว่าความเสียหายของเรา นายวิษณุ กล่าวว่า "ใครเป็นคนหลอกเรา เราก็ฟ้องคนนั้น หรือใครเป็นต้นเหตุในฝ่ายเราก็ต้องเรียกให้รับผิด ส่วนจะฟ้องศาลเราหรือศาลอังกฤษต้องใช้เวลาตรวจสอบ ต้องดูข้อกฎหมายของความได้เปรียบเสียเปรียบ โดยจะยึดผลประโยชน์ของรัฐเป็นตัวตั้ง เบื้องต้นเราจะดูเฉพาะกรณีนี้ให้มันได้ก่อน อย่าเพิ่งไปถึงสินค้าตัวอื่นที่บริษัทเดียวกันนี้จำหน่าย

          เมื่อถามว่า การดำเนินการเรื่องนี้ เกรงว่าจะเจอตอหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เจอ เราต้องเดินหน้าตรวจสอบไป แม้จะเจอก็ไม่ใช่ว่าต้องผิด อย่าเพิ่งไปตั้งหลักแบบนั้น วันนี้ป.ป.ช.คือคนที่ดูตอใหญ่ที่สุด รัฐไม่สามารถไปตรวจทุจริตได้ 
  
          เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะเรียกเป็นค่าโง่ได้หรือไม่นั้น คงต้องแล้วแต่สื่อ แต่มันไม่ดีเพราะทำให้เกิดความรู้สึกว่าอะไรที่ควักเงินซื้อดูจะเรียกเป็นค่าโง่ทั้งหมดได้อย่างไร บางทีถ้าเรียกได้มันก็เป็นค่าฉลาด ข้อสำคัญคือเป็นการซื้อความรู้ แต่แพงไปหน่อย.

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ