"ฮุนเซน" ก๊อปปี้ "เนวิน" !?

               เช้าวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ชาวกัมพูชาที่ติดตามเพจ Samdech Hun Sen, Cambodian Prime Minister ต่างรู้สึกประหลาดใจเล็กๆ กับเฟซบุ๊กไลฟ์จากหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา บริเวณวงเวียนเอกราช กรุงพนมเปญ

 

 

               เมื่อปรากฏภาพ "สมเด็จฮุนเซน" สวมหมวกกันน็อกขับมอเตอร์ไซค์ โดยมีองครักษ์นั่งซ้อนท้าย ออกสู่ถนนใหญ่ มุ่งหน้าสู่สถานีตำรวจใกล้บ้านพัก

               สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2559 สมเด็จฮุนเซน มีภารกิจไปร่วมงานศพ "ใส่ ภูทอง" ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด แต่ระหว่างทางผ่านชุมชนใน จ.เกาะกง ได้แวะทักทายประชาชนสองข้างทาง และนำมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านคนหนึ่งมาขี่โชว์ ให้แอดมินเพจ Samdech Hun Sen บันทึกภาพสดๆ

 

 

               พลันที่ภาพชุดนี้เผยแพร่ออกไป ได้มีปฏิริยาจากชาวกัมพูชาเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย และส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่า นายกฯ ฮุนเซน ขี่มอเตอร์ไซค์โดยไม่สวมหมวกกันน็อกนั้น เป็นการกระทำไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายจราจร

               กระแสวิพากษ์วิจารณ์แรงขึ้นเรื่อยๆ จนสมเด็จฮุนเซน ต้องโพสต์ขอโทษประชาชน และบอกว่า แม้จะขอโทษ แต่ตำรวจจราจรยังคงจะต้องลงโทษปรับในความผิดกรณีไม่สวมหมวกกันน็อก เพราะตนเองได้กระทำความผิดจริง

               ดังนั้น สมเด็จฮุนเซน จึงต้องไปจ่ายค่าปรับ 3 หมื่นเรียล หรือ 267 บาท ที่สถานีตำรวจ

 

 

               พร้อมกับกล่าวว่า "ผมขอชมเชยตำรวจท้องที่บังคับใช้กฎหมาย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และไม่กลัวอำนาจคนใหญ่คนโต รวมทั้งนายกรัฐมนตรี นี่เป็นตัวอย่างของการบังคับใช้กฎหมาย"

 

 

               จากข้อหา "ไม่สวมหมวกกันน็อก" ของนักการเมืองกัมพูชา ทำให้นึกถึงข้อหา "ขับรถผิดกฎจราจรในช่องทางห้ามรถมอเตอร์ไซค์" ของนักการเมืองอีสานใต้ ซึ่งเป็นคนชาติพันธุ์เดียวกันอีกต่างหาก

               เหตุเกิดเมื่อ 18 มิถุนายน 2558 ระหว่างที่ เนวิน ชิดชอบ พร้อมคณะกำลังขี่บิ๊กไบค์ จากกรุงเทพ มุ่งหน้ากลับบุรีรัมย์ โดยตำรวจจาก สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เรียกให้หยุดเนื่องจากปฏิบัติผิดกฎจราจร หลังจากการจับกุม ทั้งหมดได้ขี่บิ๊กไบค์ไปเสียค่าปรับที่ สภ.คลองหลวง คันละ 400 บาท 

               ก่อนออกเดินทางต่อ "เนวิน" ได้กล่าวชมเชยและขอบคุณตำรวจ ที่ทำหน้าที่รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด

 

 

               หลังเกิดเหตุ เพจ BURIRAM UNITED ซึ่งดูแลโดย กรุณา ชิดชอบ ภรรยาเนวิน ได้โพสต์ภาพและข้อความบอกเล่าเหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความประทับใจให้แก่สาวกปราสาทสายฟ้าจำนวนมาก และสื่อกระแสหลักก็นำเรื่้องนี้ไปเผยแพร่อย่างคึกคัก

               ทั้งสองกรณีที่เกี่ยวกับ "นักการเมืองเขมรต่ำ" กับ "นักการเมืองเขมรสูง" คงพอจะสรุปได้ว่า ใครก๊อปปี้ใคร?