Lifestyle

ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงเหตุผอ.ตบบ้องหูเด็ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สพฐ.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีผอ.ตบบ้องหูเด็ก “การุณ” เผยเห็นคลิปแล้วสะเทือนใจ ส่วนกรณีครูชายสวนกุหลาบฯ กก.สพฐ.ชี้มีมูล เตรียมส่งต่อให้โรงเรียน ผ่านสพม.1

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายการุณ  สกุลประดิษฐ์  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายสาโรจน์  มีไผ่ ครูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  เผยแพร่คลิปมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และสั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ขณะที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยได้ ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ สพฐ. ได้สรุปผลการสอบสวน โดยระบุ ว่า มีมูลอันสมควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจริง โดยสพฐ. จะส่งผลการสอบสวนดังกล่าว ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 1กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อให้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป ซึ่งโดยหลักการแล้ว กรณีนี้มีโทษสูงสุดถึงขั้นปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ อีกทั้ง ยังไม่สามารถกลับมาเป็นครูได้ หากคุรุสภามีมติเพิกถอนใบอนุญาตฯ

ส่วนกรณีที่มีการมีเผยแพร่คลิป ผู้อำนวยการโรงเรียนเขมราฐ  จ.อุบลราชธานี  ตบบ้องหูเด็ก นายการุณ กล่าวว่า ได้เห็นภาพในคลิปแล้วรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยได้สอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวไปยัง สพม. เขต 22 (นครพนม - มุกดาหาร) เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทางโรงเรียนมีข้อตกลงว่า เพื่อความมีระเบียบวินัย เด็กจะต้องใส่ชุดนักเรียนมาเรียนทุกวัน แต่ในวันดังกล่าว มีเด็กกลุ่มหนึ่ง ใส่ชุดพละมาเรียน ซึ่งครูได้พยายามตามหาตัวเด็กกลุ่มนี้มาสอบถาม แต่เด็กกลับวิ่งหนี จนเกิดความชุลมุน แต่เด็กคนหนึ่งวิ่งช้าครูจึงไล่จับได้ทัน จนเกิดภาพเหตุการณ์ครูตบบ้องหูเด็กขึ้น ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม เป็นการใช้อารมณ์บันดาลโทสะ และถือว่าเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ  ดังนั้น จึงสั่งการให้การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว     

“การลงโทษเด็กนั้นจะต้องมีการปฏิบัติตามขั้นตอน  ซึ่งมีตั้งแต่ ตักเตือน ทำความเข้าใจกับเด็ก หากเด็กยังปฏิบัติอีก ก็จะมีการภาคทัณฑ์  และท้ายสุดคือเรียกผู้ปกครองมาพบ ขณะเดียวกัน ก็จะต้องมีการปรับพฤติกรรมให้เด็กด้วย แต่กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าใช้อารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งตนคิดว่า มีครูส่วนน้อยที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ครูส่วนใหญ่”นายการุณ กล่าว  

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ