ข่าว

พีระพงษ์ วงศ์ศรีจันทร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรงเรียนซับมงคลวิทยา ต.โป่งนก อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ

“เด็กคือผืนผ้าใบของผม ผมต้องใช่ความระมัดระวังเป็นอย่างมากที่จะเขียนมันออกมา ถ้าเราเขียนผิด เด็กก็จะเดินทางไปในสิ่งที่ผิด เราจะเขียนเขาอย่างไรจึงจะทาให้เด็กสามารถที่จะยืนอยู่ในสังคมได้ และต้องเป็นคนดีด้วย” 

ครูพีระพงษ์เป็นคนพื้นเพคนจังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวของครูมีคุณพ่อซึ่งเป็นต้นแบบในวิชาชีพครูเล่าถึงพ่อ ด้วยความภูมิใจว่า พ่อเป็นครูที่เสียสละ ทุ่มเท อุทิศตนในกับนักเรียนและโรงเรียน เวลาที่ไปไหน ก็จะมีลูกศิษย์ของพ่อไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้า คุณหมอ พยาบาล ตารวจ ต่างเข้ามาสวัสดีและให้ความช่วยเหลือเสมอ นอกจากนั้นยังได้แรงบันดาลใจจากครูดีๆหลายคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือในวัยเด็ก จึงคิดว่าเมื่อโตขึ้นเราก็น่าจะเป็นครูตามแบบอย่างที่เห็นได้ 
ครูพีระพงษ์มีความชื่นชอบและถนัดในงานศิลปะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เริ่มบรรจุเป็นครูครั้งแรกที่โรงเรียนบ่อไทย จังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นย้ายมาสอนที่โรงเรียนบ้านวังโบสถ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ 
ครูพีระพงษ์มีความมุ่งมั่นในการสอน ดูแลและทำกิจกรรมต่างๆกับนักเรียนจนไม่คิดอยากย้ายไปที่ไหน แต่เนื่องจากคุณพ่อของภรรยาประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพาต จึงจำเป็นต้องย้ายโรงเรียนให้อยู่ใกล้บ้านมากขึ้น เพื่อสะดวก ในการดูแล โดยครูเลือกโรงเรียนซับมงคลวิทยา เพราะแต่ก่อนนั้นในระหว่างที่ไปปฏิบัติงานต้องเดินทางโดยรถประจำทาง ซึ่งจะผ่านหน้าโรงเรียนอยู่บ่อยๆ จึงตั้งความหวังว่าอยากจะมาสอนเพราะเด็กที่นี่ขาดโอกาสมากกว่าเด็กในเมือง
ปัจจุบันครูพีระพงษ์สอนอยู่ที่โรงเรียน ซับมงคลวิทยามา 18 ปี รับผิดชอบสอนวิชาศิลปะ พละ สังคมศึกษาซึ่งรับผิดชอบหลายวิชาเพราะมีครูน้อย ครูพีระพงษ์เป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอทั้งการหาความรู้เพิ่มเติมเข้ารับการอบรมสัมมนาและเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านทัศนศิลป์ ครูพีระพงษ์ออกตัวว่าไม่ใช่คนเก่งนักโดยเฉพาะวิชาหลักอย่างคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ซึ่งสิ่งใดที่เมื่อเด็กถามครูพีระพงษ์ไม่ทราบก็จะไม่นิ่งเฉยครูจะไปสอบถามจากผู้รู้หรือค้นหาจากสื่อต่างๆหาคาตอบมาให้แก่เด็กๆ แต่สิ่งที่ครูมีความถนัดอย่างศิลปะนั้นครูจะถ่ายทอดให้อย่างเต็มที่ทุ่มเททั้งในชั่วโมงเรียนและหลังเลิกเรียนโดยให้นักเรียนมานอนค้างที่โรงเรียนเพื่อให้เด็กได้เก็บเกี่ยวความรู้ ฝึกซ้อมฝีมือด้านศิลปะ สาหรับใช้เป็นใบเบิกทางในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ครูพีระพงษ์จะไม่ค่อยได้มีเวลาหยุดพักเพราะเมื่อโรงเรียนเลิกก็ยังคงทำการสอน โดยการให้เด็กมาเรียนเสริมเพิ่มเติมหลังจากที่เลิกเรียน
สิ่งหนึ่งที่เป็นผลงานที่ครูพีระพงษ์ภูมิใจคือการที่เด็กนักเรียนในความดูแลของครูสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ มีความรักต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที ถึงจะเรียนไม่เก่งแต่เป็นเด็กดี มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นเป็น ไม่เห็นแก่ตัว ส่วนในด้านของนักเรียนที่มีความสามารถครูพีระพงษ์ก็ภูมิใจที่ตนได้ช่วยให้เด็กๆเหล่านั้นได้ใช้ทักษะด้านศิลปะต่อยอดในการสอบเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นและเมื่อเรียนจบประสบความสำเร็จแล้วเด็กๆเหล่านั้นกลับมาที่โรงเรียนเป็นผู้ให้คืนแก่น้องรุ่นหลังตามเจตนารมณ์ของครูพีระพงษ์ 
ครูพีระพงษ์ยังคงสอนเด็กติวเพิ่มเติมให้กับเด็กๆที่มีความมุ่งมั่นที่จะเรียนต่อ เป็นครู 24 ชั่วโมง ให้ความรักให้ความอบอุ่นแก่ลูกศิษย์เปรียบเสมือนเด็กเหล่านั้นเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งผลที่สะท้อนออกมาก็คือเด็กที่จบไปแล้วยังกลับมาที่โรงเรียนมานอนที่โรงเรียนเหมือนในอดีตกลับมาสอนน้องๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของครู 
“เป้าหมายในอาชีพครูต้องการที่จะสร้างเด็กให้เด็กเป็นคน สอนให้เด็กเป็นคนมีสามัญสึกนึก สอนให้เขารู้ที่จะดูแลตัวเองได้เมื่อเขาสามารถที่จะดูแลครอบครัว มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เห็นเด็กประสบผลสาเร็จครูก็รู้สึกดีใจมากกว่าที่ได้รางวัลมากมายเสียอีก”
ครูที่ดีในความคิดของครูพีระพงษ์นั้นต้องให้เวลาไม่ได้ให้แค่ในบทเรียน แต่ต้องให้ทุกอย่างกับเด็ก ต้องมีความอดทน เป็นครูต้องทุ่มเทให้เด็ก เอาใจใส่เด็กทุกเวลา เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กได้เห็น ในชีวิตครูไม่เคยดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ไม่เคยทำให้เด็กเห็น ในเมื่อเด็กเห็นเราประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเด็กก็จะทำตาม 
วิธีการแก้ปัญหาของครูพีระพงษ์นั้นจะให้เด็กๆได้สัมผัสกับธรรมชาติ ให้ธรรมชาติช่วยขัดเกลาจิตใจ ครูให้การดูแลเด็กอย่างเป็นพิเศษ เด็กนักเรียนทุกคนที่ด้อยโอกาส ที่บ้านยากจน ครูไม่สามารถที่จะช่วยด้านเงินทองได้ แต่ครูใช้ศิลปะมาเป็นตัวเชื่อมโยงให้เด็กผ่อนคลายจากความเครียดทั้งจากปัญหาที่บ้านและจากการเรียน โดยใช้พื้นที่หลังโรงเรียนสร้างเป็น Art scape เป็นสถานที่ให้เด็กได้มาพักผ่อน เป็นห้องเรียน โดยบริเวณจะมีเรื่องราว และผลงานของรุ่นพี่ที่ได้ทำไว้มาแสดงให้รุ่นน้องได้ศึกษา เมื่อเด็กเห็นก็จะเกิดแรงบันดาลใจในการที่คิดหรือสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้น และเป็นที่ให้เด็กทุกคนเข้ามาเรียนรู้ด้านศิลปะใช้วิชาศิลปะเป็นทางออกในการยกระดับการศึกษา ซึ่งนอกจากครูพีระพงษ์จะทุ่มเทกายใจในการสอนด้านศิลปะในชั้นเรียนแล้ว ครูเสียสละเวลาเพื่อฝึกซ้อมเด็กๆม. 3 ที่หวังจะไปเรียนต่อให้มีความรู้ความสามารถเพื่อที่จะไปสอบเข้าให้ได้ (วิทยาลัยช่างศิลป์ จ.สุพรรณบุรี)
ชั้นเรียนของครูเต็มไปด้วยจินตนาการ ในห้องเรียนที่เรียกว่า “ห้องเรียนธรรมชาติ” ของครูมีแต่ความเป็นกันเอง เด็กนักเรียนกล้าที่จะเข้าหาโดยที่เด็กไม่มีอาการเคอะเขิน ระหว่างและเด็กมีรอยยิ้มให้กันตลอด
เทคนิคในการสอนของครูพีระพงษ์นั้นก็คือ การใช้สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวของเด็กนักเรียนเป็นต้นแบบของการเรียนรู้ ให้เด็กได้ศึกษาศิลปะจากธรรมชาติ จากต้นไม้ ก้อนหิน วิธีการสอนของครูจะสอนให้เด็กได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวเราสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนคิดเอง เปิดจินตนาการให้เด็กให้เด็กลงมือทำไม่กำหนดกรอบให้เด็ก สอนให้เด็กได้รู้จักการใช้ชีวิตโดยให้เด็กนักเรียนเรียนผ่านโครงการ “เขียนใจก่อนเขียนรูป” ฝึกความอดทน สอนให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง สอนให้เด็กเป็นคนอ่อนโยน ครูจะปูพื้นฐานเกี่ยวกับทางด้านจิตใจและครูได้จัดทำหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาศิลปะทั้งหมด 18 เล่ม เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้กับเด็กในโรงเรียน และได้ตีพิมพ์เผื่อเผยแพร่ให้กับคนในชุมชน 
ตลอดระยะเวลา 36 ปีที่ครูสอน ครูพีระพงษ์คือครูที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยม คือผู้ให้อย่างแท้จริง 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ