ข่าว

"วิกรม" พ้อ! สังคมไทยไม่ยุติธรรม แค่ถ่ายรูปกับนกใบเดียว...

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิกรม" พ้อ! สังคมไทยไม่ยุติธรรม แค่ถ่ายรูปกับนกใบเดียว โจมตีหนัก เปรย หากยังไม่หยุดจะพิจารณาเพื่อรักษาความเป็นธรรมให้ตัวเอง

 

          กรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจ นักคิด นักเขียน โพสต์ภาพถ่ายคู่นกเงือกสีน้ำตาลลงในเฟซบุ๊กของตนเอง จนเกิดกระแสนักอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้ามาตรวจสอบเรื่องการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวิกรมเคยบอกว่าเป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดูอยู่ จากนั้นกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบภายในตึกสำนักงานย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กทม. และบ้านพักที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยพบนกเงือก 2 ตัว บริเวณบ้านที่เขาใหญ่ และต่อมา กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เข้าแจ้งความ นายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ น้องชายนายวิกรม ที่สถานีตำรวจปากช่อง เอาผิดตามมาตรา 16 ในข้อหาล่านกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

 

          ล่าสุด นายวิกรม ให้สัมภาษณ์ รายการ CEO VISION ทาง FM 96.5 ในช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย. 59) ชี้แจงประเด็นนกเงือก ว่า ถ้านกตัวนี้เป็นของคนอื่น จะมาทำข่าวกันมากมายขนาดนี้ไหม พร้อมบอกว่า ที่ไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนก เพราะยุ่ง ไม่ได้หลีกลี้หนีหน้า ไม่เคยหนีใคร เพราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย "ผมมีเจตนาดี เคยบริจาคให้กลุ่มอนุรักษ์นกต่างๆ เคยทำดีมากมาย แค่ไปถ่ายรูปกับนกใบเดียว มาโจมตี ไม่แน่ใจ ผมจะทำอะไรดีๆ กับสังคมต่อไปไหม ทำไมสังคมไทยไม่มีความยุติธรรม ไม่มีน้ำใจ สำหรับผมอะไรถูกก็ถูก ผิดก็ผิด ผมเป็นสุภาพบุรุษพอ " 

 

          นายวิกรม ยังกล่าวว่า ตอนนี้รอเจ้าหน้าที่รัฐสรุปเรื่องมาก่อน หลังจากนั้นถ้ายังมีอะไร ก็จะพิจารณาเพื่อรักษาความเป็นธรรมให้ตัวเอง

 

 


          ทั้งนี้ นายวิกรม ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อ 13 มิ.ย. ว่า “ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมเดินทางไปประเทศจีน และพม่า บ่อยมาก เพิ่งกลับจากพม่าเมื่อคืนนี้เอง กะว่ามีเวลาจะมาตอบเรื่องนก เพราะเห็นมีผู้คนสนใจเพิ่มขึ้น มีทั้งต่อว่าและช่วยผมแก้ต่างมากมาย ขอขอบคุณทุกคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา แสดงว่าสังคมเราตื่นตัวต่อความถูกต้องของกฎหมายและสังคมโดยไม่มีข้อยกเว้น
       
          ผมขอชี้แจงว่า นกที่อยู่ในภาพนั้นเป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดูอยู่ เนื่องจากบ้านที่น้องอยู่ติดกับอุทยานเขาใหญ่ ซึ่งมีวันหนึ่งคนงานพบนกตัวนี้ที่ข้างไร่ ไม่สามารถบินได้ ไม่ทราบว่ามันมาจากใหน คิดว่าคงเป็นนกของใครสักคนหนึ่งที่มีบ้านอยู่ในแถบนั้น น้องสงสารเลยเอามาเลี้ยง เพราะหากปล่อยไปก็เชื่อว่าจะถูกสัตว์ป่าหรือคนฆ่าตาย จนทุกวันนี้มันไม่ยอมไปไหนเลย คงคิดว่าเป็นคนในไร่ไปแล้ว ที่ไร่นั้นมีช้างป่า กระทิง กวาง เก้ง หมูป่า นกเงือกต่างๆ เป็ดป่า ล้วนมาที่ไร่ โดยเฉพาะนกเงือกอาศัยในไร่เกือบร้อยตัว เนื่องจากเราไม่เคยทำร้ายและมีอาหารจากต้นไม้ที่ปลูกใหม่เกือบ 10 ปี จนกลายเป็นเขตป่ากันชนระหว่างอุทยานกับชาวบ้าน จากเดิมที่นี่เป็นไร่ข้าวโพดไม่มีอะไรเลย วันนี้มีสารพัดสัตว์ป่าเข้ามายึดไร่เราเป็นแหล่งอาหารและที่อาศัยไปแล้ว
       
          ผมจึงขอเรียนว่า ผมไม่เคยครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองใดๆ ทั้งสิ้น ช่วงนี้ผมเดินทางมาก จึงเพิ่งได้มา post ข้อความวันนี้ อาจทำให้หลายคนมีคำถามมากมากเยอะแยะ แต่หากใครสงสัยหรืออยากไปดูนกป่า หรือสัตว์ป่าต่างๆ ก็เชิญแวะไปดูไร่ที่เขาใหญ่ได้ หากมีอะไรเพิ่มเติมก็เชิญส่งข้อความมาที่ Facebook นี้ได้ครับ”

          สำหรับมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 บัญญัติห้ามผู้ใดล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 26 หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ