ข่าว

“บิ๊กต๊อก”ย้ำจับ“ธัมมชโย”ทุกวิธีตามกฏหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กต๊อก"ย้ำต้องทำทุกวิธีเพื่อบังคับใช้กฎหมาย แต่จับ"ธัมมชโย"ต้องไม่กระชากลากถูภายในศาสนสถาน ยันไม่เคยพูดให้ย้าย"ผอ.พศ. แค่จี้แสดงบทบาททางสงฆ์

พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง กรณีจับกุมพระธัมมชโยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำทุกวิธีเพื่อบังคับใช้กฎหมายแต่ไม่ได้หมายถึงการเข้าไปกระชากลากถูภายในศาสนสถานเพราะไม่เหมาะสมกับสถานะการครองผ้าเหลืองเพราะในพื้นที่วัดต้องกระทำการให้เหมาะสม ที่สำคัญขณะนี้ผู้ที่ออกมาพูดคือกลุ่มศิษย์เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึงตัวผู้ต้องหาเรื่องดังกล่าวอาจเป็นประเด็นข้อกฎหมายภายหลังให้โต้แย้งว่าผู้ต้องหาอาจไม่ได้คิดเช่นนั้น และปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการดังกล่าวจึงขอให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ตนได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)มาพูดคุยว่าพศ.ต้องมีบทบาทให้มากขึ้นศาสนสถานเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมไม่ควรถูกใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติไม่เหมาะสมพศ.จะตักเตือนได้หรือไม่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่เคยพูดว่าจะย้ายผอ.พศ.หากแก้ปัญหาพระธัมมชโยไม่ได้เพราะปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันแต่อีกแง่มุมหนึ่งตามหลักการทั่วไปหากอยู่ในหน้าที่แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรต้องไป

          “ผมขอร้องให้พศ.ออกมามีบทบาทในการกำหนดหน้าที่ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาศาสนาการประพฤติตนของสงฆ์การประพฤติตนของผู้ไปปฏิบัติธรรมพศ.ควรออกมาชี้แจงว่าอะไรควรไม่ควรเราไม่สามารถพูดแทนพศ.ผมจึงได้กำชับดีเอสไอว่าไม่ควรพูดประเด็นศาสนาเพราะไม่ได้เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้รัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามีหน้าที่ต้องดูแลโดยตรงและต้องเป็นผู้พูดและชี้ได้ว่าอะไรเหมาะสมต้องออกมารักษากฎระเบียบวินัยของคำว่าพุทธศาสนาการอยู่เฉย ๆ เท่ากับไปส่งเสริมการกระทำที่ไม่ถูกต้องใช่หรือไม่หากคนที่รับผิดชอบไม่เข้ามาชี้แจงก็จะกลายเป็นคำถามขอสังคม”พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

          ส่วนกรณีสมาชิกสหกรณ์มาทวงถามความคืบหน้าการสอบสวนคดีนั้นรมว.ยุติธรรมกล่าวว่ามีการติดตามถามความคืบหน้าอยู่ตลอดเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องรับฟังว่าเงินฝากครึ่งนึงจะได้คืนหรือไม่วันนี้ไม่มีการพูดถึงการคืนเงินออมเต็มจำนวนมีแต่พูดว่าขอคืนสักนิดจะเป็นไปได้หรือไม่คำพูดที่ว่าได้คืนไม่ครบมันเจ็บปวดกับทรัพย์สินแล้วใครเป็นคนเอาทรัพย์สินเขาไปปู้ยี้ปู้ยำโดยไม่รับผิดชอบเจ้าหน้าที่ต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายให้มากที่สุด100%คือคืนเงินเต็มจำนวนแต่วันนี้เมื่อดูทรัพย์สินที่มีอยู่ยังพูดไม่ได้ว่าจะไปถึงจุดไหนจึงต้องตัดสินที่กระบวนการยุติธรรมและจบที่ความจริง

          “ในการชี้แจงกับสมาชิกหลายกลุ่มได้พยายามอธิบายความคืบหน้าการสอบสวนคดีผมเข้ามาทำในสิ่งถูกต้องไม่ได้กลั่นแกล้งใครก่อนที่ผมจะมาพวกเขาหมดหวังเพราะคดีเงียบไป 3 ปีดีใจที่ไม่ได้กลั่นแกล้งใครแต่เป็นความพยายามนำเงินมาคืนผู้เสียหายที่ออมเงินมาด้วยความยากลำบากมาทั้งชีวิต”รมว.ยุติธรรมกล่าว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ