ข่าว

ดึง‘เจ้าคณะหนกลาง-รองภาค1’ร่วมถกปม‘ธัมมชโย’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 เจ้าคณะภาค1 ขอเพิ่ม 'เจ้าคณะหนกลาง-รองเจ้าคณะภาค1' ร่วมถกหาทางออกปม 'ธัมมชโย' เผยต้องเร่งดำเนินการ ศิษย์ธรรมกายชี้แจงกรณีDSIพบแช็คโอนเข้าวัดเพิ่ม400ล้าน

            22มิ.ย.59 นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้เข้าหารือกับพระราชวิสุทธิเวที (สายชล ฐานวุฑโฒ) เจ้าคณะภาค 1 เพื่อหารือข้อดำเนินการกับพระธัมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ข้อหาหลบหนีหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามคำสั่งของนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพระราชวิสุทธิเวที ขอประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อมาหาทางออกด้วยตัวเอง 

            นายพนม กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะประสานสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พระราชโมลี (มีชัย วีรปญโญ) รองเจ้าคณะภาค 1 และพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยเจ้าคณะภาค 1 แจ้งว่าต้องเร่งดำเนินการ เพราะในส่วนที่รับผิดชอบอยู่มีเรื่องที่พระพทุธอิสระ ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบรวมอยู่ด้วย 
 

ศิษย์ธรรมกายชี้แจงกรณีDSIพบแช็คโอนเข้าวัดเพิ่ม400ล้าน

           เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 22 มิ.ย. 59 นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ได้แถลงข่าวมุมมองของศิษย์วัดพระธรรมกาย การกรณี ตามที่มีข่าวว่าดีเอสไอพบเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โอนมาวัดพระธรรมกายเพิ่มอีก 400 ล้านบาทว่า คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายขอเรียนชี้แจงดังนี้

           1. ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกันระหว่างสหกรณ์คลองจั่น ดีเอสไอและทาง วัดพระธรรมกาย พบว่านายศุภชัย ศรีศุภอักษรได้สั่งจ่ายเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มาบริจาคให้กับพระเทพญาณมหามุนี จำนวน 10 ฉบับ รวมยอดเงิน 387,160,000 บาท และบริจาคให้กับ พระธรรมกาย จำนวน 11 ฉบับ รวมยอดเงิน 668,400,000 บาท ยอดรวมเงินทั้ง 2 ส่วนเท่ากับ 1,055,560,000 บาท

           2. ทางคณะศิษย์ได้ช่วยกันตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแก่สหกรณ์คลองจั่น เต็มจำนวน 1,055,560,000 บาท ทางสหกรณ์จึงได้มีหนังสือขอบคุณมายังคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายและทำหนังสือแจ้งไปยังดีเอสไอให้ทราบว่า สหกรณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ติดใจดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อวัดพระธรรมกายและพระเทพญาณมหามุนีอีกต่อไป

           3. ยอดเงิน 400 ล้านบาทที่เป็นข่าวนั้น หากมีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเป็นการนำเงินจากสหกรณ์โดยผิดกฎหมายมาบริจาคจริง ทางคณะศิษยานุศิษย์ก็จะประชุมหารือกันเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

           4. สหกรณ์คลองจั่นได้ฟ้องคดีแพ่งกับผู้ที่รับเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นไปทั้งหมด 32 ราย รวมยอดเงิน 13,000 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเท่านั้น ที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาแก่ทางสหกรณ์จนครบจำนวน บุคคลอื่นๆอีก 30 รายไม่มีใครเยียวยาแก่สหกรณ์เลยแม้แต่บาทเดียว

5. ทำไมดีเอสไอจึงระดมสรรพกำลังนับพันนายจะดำเนินคดีแต่กับพระเทพญาณมหามุนี ซึ่งทำความดีมาทั้งชีวิต ทั้งสร้างพระ สร้างวัด เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก อีกทั้งคณะศิษย์ ได้ช่วยเหลือเยียวยาไปหมดแล้ว การกระทำของดีเอสไอจึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทางสมาชิกสหกรณ์แม้แต่บาทเดียว ทำไมดีเอสไอไม่ไปทุ่มเทกำลังตามหาเงินที่เหลืออีก 13,000 ล้านบาทจากผู้รับเงินรายที่เหลือ ซึ่งยอดเงินมากกว่านับสิบเท่า

           6. พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการกดดันให้ดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนีนั้น เป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ จากการshut downกรุงเทพฯ ดีเอสไอได้ส่งฟ้องแล้ว อัยการก็ได้พิจารณาสั่งฟ้องแล้ว ขั้นตอนล่วงเลยจนจะเป็นจำเลยขึ้นศาลแล้ว แต่ทั้ง 2 คนได้ ร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด สั่งให้สอบเพิ่มเติม

           คดีนี้เวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว ทำไมข่าวจึงเงียบสนิท ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงถึงขนาดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ยึดสถานที่ราชการนานหลายเดือน ปิดเมืองหลวงของประเทศ สร้างความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดิน และความสามัคคีของคนในชาติอย่างใหญ่หลวง

           ดีเอสไอได้ออกหมายเรียก หมายจับ หมายค้นนำตัวทั้งคู่มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อส่งให้อัยการสั่งคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็วหรือไม่

           7. การกระทำของดีเอสไอนี้เป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ มีธงหรือเปล่า มีใบสั่งหรือเปล่า ดีเอสไอ จะสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมและคณะศิษยานุศิษย์ ว่าดำเนินการทุกอย่างด้วยความเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ไม่มีเอียง ไม่ 2 มาตรฐาน ได้อย่างไร ซึ่งคณะศิษย์กำลังพิจารณากล่าวโทษผู้เกี่ยวข้อง ต่อหน่วยงานของรัฐต่อไป

           8. หากการดำเนินการของดีเอสไอถูกมองว่า 2 มาตรฐาน เลือกปฏิบัติ มีวาระแฝงเร้น ก็ยากที่จะให้สังคมเชื่อมั่น ยอมรับคำเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายก็อาจกลายเป็นเรื่องตลก เพราะอาจ ถูกมองได้ว่าเป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อพิฆาตทำลายศัตรูทางการเมืองของผู้มีอำนาจเท่านั้น

ความจำเป็นรีบด่วนที่สุดของกระบวนการยุติธรรมในวันนี้ ก็คือ ต้องปรับปรุงการดำเนินงานใหม่ ให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าไม่ลำเอียง ไม่ 2 มาตรฐาน ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจใช้ในการทำลายล้างทางการเมือง เมื่อนั้นกระบวนการยุติธรรมก็จะได้รับความเคารพและปฏิบัติตามจากประชาชนทั้งแผ่นดิน

           ส่วนด้าน พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ จะแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่ขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เป็นหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอที่จะหาหลักฐานมาเนื่องจากในวันที่ตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจค้นนั้นมีแต่เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ารวมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตรียมกำลังไว้กรณีหากมีเหตุซับซ้อนที่จะเกิดจากมือที่สามสร้างความวุ่นวาย โดยเบื้องต้นด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวน20คนมาเป็นหลักฐานในการแจ้งความเอาผิด ซึ่งยังไม่สามารถระบุว่าเป็นใครบ้าง เนื่องจากเป็นเพียงภาพถ่าย ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอยังคงรวบรวมหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายเพิ่มเติมอีก ซึ่งภาพถ่ายนั้นได้มาจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอเองและขอจากผู้สื่อข่าวในวันนั้น.

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ