การเยือนไทยอย่างของ ‘แม่ซู’ หรือ ออง ซาน ซูจี ระหว่าง 23-25 มิถุนายน 2559 ได้รับความสนใจท่วมท้น ไม่เพียงเฉพาะชาวเมียนมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนคนไทยด้วย
โดยเฉพาะบรรดานายจ้างห้างร้านธุรกิจทั้งหลายที่พากันตั้งคำถามทำนองเดียวกันว่า-ฤๅครานี้แม่ซูจะพาลูกหลานเมียนมากลับบ้าน?
เหตุที่พากันตั้งคำถามเช่นนั้น มีประเด็นน่าคิด เพราะการมาครั้งนี้ต่างไปจากครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อนยิ่งนัก
ครั้งก่อนในปี 2555 แม่ซูมาในฐานะ ‘ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน’ มีเป้าหมายชัดเจนว่า มาหาเสียงกับแรงงานพม่าในไทย
แต่ครานี้ปี 2559 เป็นผู้แทนรัฐบาลในฐานะ ‘ที่ปรึกษาแห่งรัฐแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา’ และเป็นแขกของรัฐบาลไทย ตามคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
แม่ซู มาเยือนไทยพร้อม 3 รัฐมนตรีสำคัญของเมียนมา ประกอบด้วย เต็ง ส่วย (H.E. U Thein Swe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมือง และประชากร, จ่อ วิน (H.E. U Kyaw Win) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการคลัง และ จ่อ ติน (H.E. U Kyaw Tin) รัฐมนตรีแห่งรัฐว่าด้วยกิจการต่างประเทศเมียนมา
ทันทีที่มาถึงจะเริ่มต้นภารกิจแรกในบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน แม่ซูจะมุ่งหน้าไปยัง ‘ตลาดทะเลไทย’ มหาชัย จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแรงงานพม่าอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในประเทศ
จากนั้นวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน มีกำหนดการที่จะไปหารือที่กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยปาฐกถาพิเศษ ให้แก่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของไทย ในหัวข้อ ‘Myanmar, ASAEN and the World :The Way Forward’
ช่วงบ่ายเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือข้อราชการและการลงนามความตกลงและแถลงข่าวร่วม โดยประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะหยิบยกขึ้นหารือในครั้งนี้ ได้แก่ ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านการพัฒนาและความเชื่อมโยง เป็นต้น
ทั้งสองฝ่ายจะลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน ความตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน และความตกลงว่าด้วยการข้ามแดน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของภาคเอกชนไทยและแรงงานเมียนมาที่ทำงานในไทยด้วย
ปิดท้ายวันที่ 25 มิถุนายน มีกำหนดการเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา บ้านถ้ำหิน จ.ราชบุรี และจะเดินทางกลับในเวลา 17.50 น.
ต่อกรณีการมาเยือนของแม่ซู บรรดาภาคเอกชนไทยต่างกังวลต่อแรงงานเมียนมาคืนถิ่นเป็นอย่างมากนั้น
ดังนั้น ภาคเอกชนไทยจึงเตรียมนำเสนอประเด็นการส่งเสริมให้มีการค้าการลงทุนร่วมกันระหว่างนักธุรกิจในสมุทรสาครกับนักธุรกิจเมียนมาด้วย
ความกังวลของนักธุรกิจไทย ก็เนื่องจากเมื่อปี 2555 แม่ซูได้เดินทางเยี่ยมแรงงานชาวเมียนมาที่ ‘มหาชัย’ รวมทั้งเยี่ยมชมการทำงานของ ‘ศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่า’ จ.สมุทรสาคร พร้อมปราศรัยสั้นๆ ท่ามกลางการต้อนรับของชาวเมียนมาล้นหลาม
ตอนหนึ่งคำปราศรัย แม่ซูให้คำมั่นสัญญาว่า จะพัฒนาเมียนมาให้เจริญรุ่งเรือง และนำพาชาวพม่ากลับคืนถิ่นฐานบ้านบ้านเกิด
จึงต้องจับตา การมาเยือนของ ‘แม่ซู’ และคณะในครั้งนี้ว่า จะยืนยันในคำพูดเดิมหรือไม่?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง