บันเทิง

ภัยหนาว! ปอดบวมปีละ4 หมื่น (อี 2 น.3)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภัยหนาว! ปอดบวมปีละ4 หมื่น (อี 2 น.3) สธ.เผยช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคปอดบวม 43,152 ราย เตือนเด็ก ผู้สูงอายุ คนสูบบุหรี่จัด รักษาร่างกายให้อบอุ่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากป่วยไข้สูง ไอหนัก เจ็บหน้าอก รีบไปพบแพทย์ทันที ขณะที่แม่ฮ่องสอนประกาศทั้ง 7 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ จ.เชียงใหม่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยหนาว และมอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ยาตำราหลวง เครื่องช่วยเดินสำหรับคนพิการ รวม 620 ชุด ที่หมู่บ้านขุนกลาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นพ.ปราชญ์กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานในขณะนี้ อาจทำให้คนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศแห้งและเย็นจัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มีความรุนแรง เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด เช่น โรคหัวใจ เมื่อเป็นปอดบวมมักจะมีอาการรุนแรง จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา พบว่าแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบกว่าแสนราย เสียชีวิตนับพันราย ในปี 2550 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 142,250 ราย เสียชีวิต 1,043 ราย เฉพาะในช่วงฤดูหนาว 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 -กุมภาพันธ์ 2551 พบผู้ป่วย 43,152 ราย เสียชีวิต 279 ราย ภาคอีสานสูงสุดป่วย 14,683 ราย เสียชีวิต 35 ราย รองลงมาภาคกลางป่วย 11,961 ราย เสียชีวิต 111 ราย ภาคเหนือป่วย 9,712 ราย เสียชีวิต 108 ราย ภาคใต้ป่วย 6797 ราย เสียชีวิต 25 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยจะสูงสุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า อาการผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจะมีไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจหอบ มีเสมหะมาก มักจะเกิดตามหลังโรคไข้หวัด 2-3 วัน ในเด็กจะตัวร้อนจัด ถ้าเป็นมากจะหายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม ดังนั้นหากเด็กมีอาการลักษณะนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที หากรักษาช้า หรือได้รับยาไม่ถูกต้อง อาจมีโรคแทรกได้อีก เช่นมีหนองในเยื่อหุ้มปอด ปอดแฟบ ฝีในปอด สำหรับผู้ป่วยโรคนี้ ให้พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามดื่มน้ำให้มากๆ เพราะคนไข้จะเสียเหงื่อมาก และจะรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หากขาดน้ำจะทำให้เสมหะข้นเหนียว ด้าน นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวปีที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ พบผู้ป่วยด้วยโรคปอดบวมกว่า 2,000 ราย เสียชีวิต 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก ในปีนี้พบผู้ป่วยโรคปอดบวมแล้ว 858 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือต้องประสบกับสถานการณ์ภัยหนาวอย่างหนัก ล่าสุดที่ จ.แม่ฮ่องสอน ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว โดยนายธงชัย วงศ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาว สืบเนื่องจากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา อุณหภูมิลดต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสติดต่อกันเกินกว่า 3 วัน และทางอำเภอแต่ละแห่งได้รายงานไปยังจังหวัดเพื่อดำเนินการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาวเพื่อให้การดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างทั่วถึง นายคมสันต์ สุวรรณอัมภา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ จ.แม่ฮ่องสอนได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีภัยหนาวทุกอำเภอรวม 7 อำเภอ ซึ่งขณะนี้มีความต้องการเครื่องกันหนาวประมาณ 9 หมื่นราย ทั้งนี้ได้ประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอแต่ละอำเภอให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวไปก่อนในขั้นแรก หากพื้นที่ใดเกินกำลังหรือเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไม่เพียงพอก็สามารถขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมได้จากทางจังหวัด โดยจะเน้นให้แก่ ผู้ด้อยโอกาส ยากจน คนชรา เด็กเล็ก และผู้พิการ คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะเร่งแจกจ่ายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวให้แล้วเสร็จเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ภัยหนาวในปีนี้ ส่วนภาคอีสานก็ประสบปัญหาภัยหนาวเช่นกัน โดย จ.นครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ทำให้ประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตลอดจนคนชราต้องก่อไฟผิงแก้หนาวในช่วงยามเช้า ในขณะเดียวกันจากสภาพอากาศหนาว กลับเป็นช่วงทำเงินของชาวบ้านบางกลุ่ม ที่นำหนังกระบือสดมาทำหนังเค็มออกขายตามหมู่บ้าน นายประนอม ชนะเคน ชาวบ้านน้อยชลประทาน หมู่ 9 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ยึดอาชีพทำหนังเค็มขายมากว่า 15 ปี เปิดเผยว่า ตนจะซื้อหนังควายสดจากโรงฆ่าสัตว์มาทำหนังเค็มขาย ในราคากิโลกรัมละ 30 บาท โดยวิธีการทำจะนำหนังควายมาล้างและแร่เป็นเส้นๆ ปรุงด้วยเกลือ รำข้าวแก่หมัก 1 คืน ก่อนน้ำมาย่างไฟให้แห้งแล้วตัดมัดเป็นพวงๆ ขายส่งพวงละ 100 บาท ซึ่งมีลูกค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดมารับซื้อไปขายต่อพวงละ 130 บาท ทั้งนี้ปกติในช่วงหน้าร้อนหรือหน้าฝน จะใช้หนังควายมาผลิตเป็นหนังเค็มเฉลี่ยวันละ 3-4 ตัว แต่ในช่วงอากาศหนาวทุกปีถือว่าเป็นช่วงทำเงินดีที่สุด โดยจะต้องใช้หนังควายมาทำหนังเค็มวันละ 10 ตัว เนื่องจากชาวภาคอีสานจะนิยมบริโภคหนังเค็มเพื่อเป็นการแก้หนาว โดยจะซื้อหนังเค็มแห้งมาเผาในกองไฟขณะผิงไฟ และทุบบริโภคกับข้าวเหนียวร้อนๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งทำให้ครอบครัวมีรายได้จากการขายหนังเค็มเฉลี่ยวันละ 5,000 บาท ถือเป็นอาชีพทำเงินให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ